Super Seal คนเหนือคน

ท่ามกลางความมืดมิดที่ไม่อาจมองเห็นได้แม้ปลายนิ้วมือตัวเอง ในหนาวเหน็บแฉะชื้นทำให้พวกเขาต้องแช่อยู่ในน้ำ ในความสลับซับซ้อนที่พวกเขาต้องใช้มือควานคลำหาทางไปต่อออกซิเจนแทบไม่พอแบ่งกันหายใจ หน่วยซีลที่ยกทัพจากเกาะพระ ฐานที่ตั้งหน่วย บินตรงสู่เชียงรายเพื่อดำน้ำสำรวจถ้ำทั้งที่ไม่เคยมีในหลักสูตร ทั้งที่ไม่มีประสบการณ์มาก่อนแต่พวกเขาถูกสอนให้อดทน ถูกฝึกให้ดาหน้าไม่เลือกที่เพื่อตามหาสัญญาณ ชีพของ ๑๓ หมูป่าการทำงานของหน่วยซีลในปฏิบัติการถ้ำหลวงเรียกเสียงเฮจากคนทั้งประเทศพร้อม ๑๓ ชีวิตของทีมหมูป่าฯ ที่เหมือนได้เกิดใหม่ ได้ใช้ชีวิตอีกครั้ง มีคำถามตามมามากมายจากทั่วโลก ไม่ว่าการดำเนินการที่ไม่ถูกต้อง ปฏิบัติการที่ละเมิดกฏความปลอดภัย จนถูกวิจารณ์ต่างๆ นานา ทว่าในทางกลับกัน นี่กลับเป็นสิ่งที่พิสูจน์ชัดว่า "สำหรับซีลแล้ว ภารกิจเหนือสิ่งอื่นใด แม้ชีวิต"“SUPER SEAL คนเหนือคน” เล่มนี้ เปิดเผยเส้นทางหฤโหดสู่ความเป็นสุดยอดนักรบมนุษย์กบพันธุ์ไทย หลักสูตรที่ทหารทุกเหล่าทัพยกนิ้วให้ว่าโหดหินที่สุด เพื่อสร้างนักรบพิเศษที่ถูกเรียกใช้ให้ไปทำงานเสี่ยงตายวาสนา นาน่วมพาผู้อ่านบุกถึง “เกาะพระ” ฐานที่มั่นของหน่วยซีล อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เฝ้าสังเกตการณ์และพูดคุยกับทุกคนบนเกาะ ตลอดระยะเวลาการฝึก ๗ เดือน ตัวอักษรทุกตัว ภาพถ่ายทุกภาพ เรียกว่า “วงใน” ที่สุดจนอาจทำให้ รู้สึกเจ็บปวดทรมานไปกับ (ว่าที่) นักทำลายใต้น้ำจู่โจม (นทต.) เลยทีเดียวพวกเขาต้องเรียนทั้งภาคทฤษฎีวิชาการ ฝึกภาคปฏิบัติ ฝึกความอดทนต่อทั้งความเหน็ดเหนื่อยทางร่างกายและความกดดันทางจิดใจ ถึงขนาดที่ว่า หัวกะทิของแต่ละเหล่ามาสมัครและผ่านการทดสอบรวมกันร่วม ๑๐๐ คน แต่ผ่านการฝึกและจบออกไปเพียง ๓๖ คนเท่านั้นนับเป็นระยะเวลาแห่งความเป็น “ที่สุด” ในชีวิต เหนื่อยที่สุด หนักที่สุด เจ็บปวดที่สุด กลัวที่สุด หิวโหยที่สุด และใกล้ตายที่สุด เพื่อเตรียมพร้อมรับภารกิจเดนตายหลังจากผ่านหลักสูตร ได้สัญลักษณ์ติดหน้าอก “ฉลามคู่เหนือเกลียวคลื่น” เพื่อเป็นนักทำลายใต้น้ำจู่โจม เพื่อปฏิบัติได้ทุกภารกิจในทุกที่ ทุกสภาพแวดล้อม “น้ำ-ฟ้า-ฝั่ง” (Sea-Air-Land) และให้สมกับที่ว่า “อยู่ในน้ำเป็นมัจฉา อยู่บนนภาเป็นวิหค อยู่บนบกข้าคืออาชา เพราะข้าคือนักทำลายใต้น้ำจู่โจม”