จะไม่ทนเงียบอีกต่อไป -การทำร้ายที่รุนแรงที่สุดไม่ใช่การล่วงละเมิดทางเพศ แต่เป็นการละเลยของครอบครัว
เรื่องราวการบำบัดเยียวตนเองของเหยื่อผู้ถูกล่วงละเมิดทางเพศ เรื่องจริงของการอยู่เคียงข้างเป็นกำลังใจให้เหยื่อผู้ถูกล่วงละเมิดทางเพศก้าวออกมาจากความมืด
ตอนอายุสามขวบ เขาถูกครอบครัวแม่นมทั้งสี่คนล่วงละเมิดทางเพศ เป็นเวลาสามปีเต็ม ทุกครั้งที่พ่อแม่มา เขาจะตะโกนร้องไห้สุดเสียงให้พาเขากลับบ้าน แต่ไม่มีคนฟัง
ภายหลังอายุห้าขวบ เขาได้กลับบ้าน ปรารถนาที่จะไม่ต้องหวาดกลัวอีกต่อไป ปรารถนาในความรักและอ้อมกอดของพ่อแม่ แต่สิ่งที่เขาได้ มีเพียงความเย็นชาและเฉยเมย
สามสิบปีต่อมา เขาอยากใช้การ 'เผชิญหน้า' เพื่อสะสางความเจ็บปวดในวัยเด็ก แต่พ่อแม่กลับบอกกับเขาว่า “แกจำผิดแล้ว” “แกยังเด็กเกิน จำไม่ได้หรอก” “พวกเขาก็แค่หยาบกระด้างเกินไป”
ประสบการณ์จริงของเฉินเจี๋ยฮ่าว ทุกถ้อยคำทิ่มแทงให้เจ็บปวด เขารวบรวมความกล้า ย้อนกลับไปมองตนเองตอนสามขวบที่ถูกหลงลืมอยู่ในหลุมดำ ปลดปล่อยความสิ้นหวังอันเกิดจากความหวาดกลัวความโกรธแค้น ความเศร้าโศกและความไร้หนทางไป ซึ่งการรับฟัง เข้าใจและอยู่เคียงข้างของภรรยานั่นเอง ที่ช่วยมอบแสงสว่างแรกให้กับชีวิตอันมืดหม่นมาอย่างยาวนาน
เขาอยากให้หนังสือเล่มนี้ ได้เป็นแสงสว่างในดวงตาให้กับเหล่าเด็กและผู้ใหญ่ที่กำลังเจ็บปวดอยู่ในความทุกข์ทรมานของการถูกล่วงละเมิดทางเพศ
“...ผมตัดสินใจเผชิญหน้ากับความทรงจำที่มืดมิดเหล่านี้ ผมจะยืนอยู่บนผืนดินที่ผมเติบโต เอาชนะอดีตของตัวผม ไม่ว่ามันจะน่ากลัว พิลึกพิลั่น ทนดูไม่ได้ขนาดไหน ผมจะเพ่งมองมัน เปิดสงครามกับมันตรงๆ...”